เราจะช่วยอะไรคุณได้บ้าง
หัวข้อที่คุณอาจคิดว่ามีประโยชน์
Share a car
รายละเอียดการแชร์รถผ่านแพลตฟอร์มฮ้อปคาร์
22Getting paid
Let us help you on how to get paid
0Revenue Sharing
Welcome! Have a look around and join the conversations.
0Partner Tips & Tutorial
Welcome! Have a look around and join the conversations.
1Partner knowledge center
แหล่งข้อมูลสำหรับ HAUP พาร์ทเนอร์
2Tips & Tutorials
จองรถอย่างไรให้คุ้ม, ทำอย่างไรเมื่อเกิดปัญหา
38Car
บริการเช่ารถยนต์ทั่วไป และ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV)
19Micro-Mobi
บริการแชร์ริ่งประเภท 2 ล้อ; สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า (E-Scooter), จักรยานไฟฟ้า (E-Bike), มอเตอร์ไซค์ไฮบริด (Motor Hybrid)
5EV Charging
บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าครบวงจร
5Rent a car
สถานที่รับรถและการใช้รถต่างๆ
571Pricing
HAUP เปิดโอกาสให้ได้เลือกรถรุ่นต่าง ๆ ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ จัดสรรให้เข้ากับทุกกิจกรรม
8Promotion
รวบรวมโปรโมชั่นต่างๆของ Haup เพื่อให้คุณใช้บริการได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้น
119Station Location
Where can I find Haup service.
425HAUP News
ข่าวน่ารู้ที่ฮ้อปอยากแชร์ให้คุณ
112สถานที่ท่องเที่ยว
Destination spots
33Lifestyle Tips & Tricks
Due to pandemic Covid-19 we have to learn how to #stayathome #workfromhome #traveldistancing
33
- Share a carสร้าง Passive Income ง่ายๆ เพียงเอารถมาปล่อยเช่ากับ Haup! ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ต่างให้ความสนใจกับการสร้าง Passive Income แล้วคนที่เพิ่งเริ่มต้น จะทำอย่างไรให้มี Passive Income เข้ามา ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจก่อนว่า… Passive Income คืออะไร? 💕Passive Income คือ รายได้ที่มาจากการที่เราลงแรงไปในตอนแรก แต่ยังคงได้รายได้นั้นกลับมาอย่างต่อเนื่อง แม้งานจะเสร็จสิ้นไปแล้วก็ตาม กล่าวคือ เป็นเงินที่สามารถสร้างกระแสเงินสดหรือรายรับกลับมาอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง ซึ่งจะตรงข้ามกับ “Active Income” ที่เป็นรายได้ที่ได้รับจากการให้บริการ ซึ่งจะอยู่ในรูปแบบของ ค่าจ้าง เงินเดือน ค่าคอมมิชชั่น ทิป หรือกล่าวง่ายๆ คือเป็นรายได้ที่มาจากการทำงาน การประกอบอาชีพนั่นเอง แล้วการสร้าง Passive Income กับ Haup ต้องทำอย่างไร? เริ่มต้นแบบไหน? มาทำความเข้าใจกันเลย🤩🙋🙋♂️ ฮ้อปพาร์ทเนอร์ คือ อะไร? HAUP Partner คือ เจ้าของรถนำที่รถยนต์มาแชร์บนแพลตฟอร์มฮ้อป เพื่อหารายได้ในรูปแบบของ คาร์แชร์ริ่ง (Carsharing) โดยสามารถบริหารจัดการผ่านเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงรถยนต์เข้ากับระบบสมาร์ทโฟน ทำให้รถยนต์ที่เปิดบริการบนแอปฯ ฮ้อปมีความปลอดภัยและจัดการออนไลน์ได้ 100% คลิกอ่านต่อ (https://www.haupcar.com/forum/share-a-car/haup-partner-khuue-aair-thamaimthuengkhwraiwaicchpl-yrthaihechaabnae-p-haup) วิธีการสมัครเป็นพาร์ทเนอร์ รถยนต์แบบไหนที่สามารถให้บริการคาร์แชร์ริ่งได้? รถยนต์ที่มีอายุไม่เกิน 10 ปี ไม่จำกัดประเภทรถยนต์ ทั้งรถยนต์ซีดานและรถยนต์พลังงานไฟฟ้า สมัครเป็น HAUP Partner มีค่าแรกเข้าหรือไม่? การเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์มีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอุปกรณ์ 1,000 บาท/คัน ,ค่าดำเนินการในการออกบัตรน้ำมัน 1,070 บาท/คัน และค่าประกันสัญญา 5,000 บาท/คัน ซึ่งจะได้รับคืนเมื่อสัญญาสิ้นสุดลง สำหรับค่าใช้จ่ายในส่วนอื่น เช่น GPS HAUP, HAUP IOT และสเตชันจุดจอดของ HAUP ที่เปิดให้บริการ ทางพาร์ทเนอร์สามารถเลือกได้ว่าจะติดตั้งหรือไม่ อ่านเพิ่มเติม(https://www.haupcar.com/forum/share-a-car/ruupaebbkaarpl-yechaa-car-sharing-hruue-car-rental) เก็บค่าคอมมิชชั่นหรือไม่? เราจะเก็บค่าคอมมิชชั่นเป็นจำนวน 25% ของเครดิตของคุณ และ 100% ที่เหลือหลังจากหักค่าใช้จ่าย เป็นรายได้ของคุณทั้งหมด โดยจะส่งมอบให้กับพาร์ทเนอร์ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป อ่านเพิ่มเติม (https://www.haupcar.com/forum/share-a-car/raayaidechliiyt-eduue-n-emuue-namrthyntswntawmaapl-yechaakab-haup) ไม่ต้องทำประกันภัยเชิงพาณิชย์แบบรายปีได้หรือไม่? ได้ สามารถเลือกทำประกันเชิงพาณิย์แบบจ่ายตามที่ใช้เป็นรายครั้ง เพื่อให้บริการในรูปแบบของการจองเช่าล่วงหน้าอย่างน้อย 48 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งโดยปกติแล้วการทำประกันเชิงพาณิชย์แบบรายปี จะสะดวกรวดเร็วในการให้เช่ามากกว่า และเสียเวลาทำเอกสารน้อยกว่าการทำประกันแบบรายครั้ง อ่านเพิ่มเติม (https://www.haupcar.com/forum/share-a-car/aenwthaangkaarthamprakanphayrthyntchan-1-echingphaanichy) มีระยะเวลาของสัญญาแบบไหนน้อยที่สุด? Pro Verified ทำสัญญา 1 ปี Starter Verified และ Starter ขั้นต่ำ 6 เดือน หน้าที่และความรับผิดชอบฮ้อปพาร์ทเนอร์คืออะไร? เจ้าของรถต้องดูแลความสะอาดดูแลรักษารถ รวมถึงปรับปรุงซ่อมแซมรถยนต์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ เพื่อทำให้ผู้มาเช่าใช้งานเกิดความประทับใจกับตัวรถยนต์จนกลับมาใช้เป็นประจำ Tips & Trick เคล็ดลับคาร์แชร์ริ่ง 💡 แนวทางการทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เชิงพาณิชย์ คลิกอ่านต่อ(https://www.haupcar.com/forum/share-a-car/aenwthaangkaarthamprakanphayrthyntchan-1-echingphaanichy) กำหนดให้รถยนต์ทุกคันที่เข้าร่วมคาร์แชร์ริ่งต้องมีประกันภัยชั้น 1 เชิงพาณิชย์ 💡 ทริคเด็ด เคล็ด(ไม่)ลับ มัดใจผู้เช่าบนแอปฯ HAUP คลิกอ่านต่อ(https://www.haupcar.com/forum/share-a-car/5-thrikhedd-ekhld-aim-lab-madaicchphuuechaabnae-p-haup) 💡 หากเกิดอุบัติเหตุกับรถ ต้องอย่างไร? แบ่งเป็น 2 กรณี คือ ถ้าเกิดอุบัติเหตระหว่างการเช่าหรือได้รับความเสียหายเกิดจากการใช้งาน ผู้เช่าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายตามข้อตกลงในสัญญาเช่าร่วมกับบริษัทประกันภัย แต่หาความเสียหายเกิดจากการเสื่อมสภาพของรถยนต์เอง เจ้าของรถเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายร่วมกับบริษัทประกันภัย 💡 ผู้ใช้รถทำผิดกฎจราจร ต้องทำอย่างไร? ค่าผ่านทางและค่าปรับจราจร ไม่นับรวมเป็นค่าบริการของแพลตฟอร์มฮ้อป ผู้เช่ารถต้องเป็นคนรับผิดชอบในส่วนนี้เอง โดยทีมงานจากฮ้อปจะทำหน้าที่เรียกเก็บค่าปรับทั้งหมดแทนพาร์ทเนอร์ และโอนยอดให้กับเจ้าของรถตามรอบจ่าย ฮ้อป แชร์สร้างรายได้ เช่ารถง่ายใกล้ตัวคุณ สมัครเป็น HAUP Partner 🔗 คลิก สอบถามเพิ่มเติม LINE 📲 @haup.partner หรือคลิกLike
- Share a carในปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่า… รถยนต์ EV มีราคาจำหน่ายที่เข้าถึงได้ง่าย และเป็นที่สนใจของคนทั่วไป จนส่งผลกระทบต่อตลาดรถป้ายแดงและตลาดรถมือสองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อีกทั่งผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจที่ซบเซา ลูกค้าส่งรถต่อไม่ไหว ปล่อยให้ไฟแนนซ์ยึดรถนับแสนคันในปี 2566 ที่ผ่านมา ก็ยิ่งซ้ำเติมให้ปริมาณรถมือสองล้นตลาด ฉุดราคาขายต่อให้ต่ำลงไปอีก… ฉะนั้น ขอแนะนำให้เพื่อนๆ คิดทบทวนอีกทีก่อนจะขายรถยนต์ เพราะราคาที่ร่วงจนแทบไม่เหลืออะไร! อาจจะได้ไม่คุ้มเสีย วันนี้ Haupcar จึงมาเปรียบเทียบราคาขายรถมือสอง กับการปล่อยรถเช่า แบบไหนจะคุ้มค่ากว่ากัน? อย่างไรก็ตาม รถที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี ขายทิ้งก็อาจจะไม่คุ้มราคา หากพิจารณาตามหลักความเป็นจริงในสถานการณ์ตอนนี้ราคาขายที่ต่ำเนื่องจากพิษเศรษฐกิจ ก็ย่อมส่งผลให้ราคาที่เต๊นท์รถจะรับซื้อย่อมต่ำลงไปด้วย Huap จึงอยากชวนทุกคน นำรถมาปล่อยเช่ากับ Haup สร้างรายได้ง่ายๆ ให้รถทำเงินให้คุณ💵 ก่อนจะขายทิ้ง คุ้มว่ามาก🤩🙋🙋♂️ ปัจจัยใดบ้าง? ที่มีผลกับรายได้ 1. การเปิดเซอร์วิสอย่างต่อเนื่อง การแชร์รถยนต์บนแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ที่ต้องการใช้รถเห็นรถยนต์บ่อยขึ้นช่วยให้เกิดการใช้ซ้ำ 2. สถานที่ให้บริการ/จุดจอดรถยนต์ สถานที่จอดสะดวกต่อการเข้าถึง ช่วยให้ผู้มาใช้บริการเดินทางไปใช้รถยนต์ได้ง่าย รวมถึงความปลอดภัยของสถานที่ย่อมมีผลต่อการตัดสินใจเลือกรถ 3. ประเภทรถยนต์/รุ่นของรถยนต์ ความนิยมของประเภทรถยนต์ขึ้นอยู่กับวิถีชีวิตและจุดประสงค์ของการใช้รถที่แตกต่างกันของคนในแต่ละพื้นที่ และช่วงเวลาของปี เช่น ในช่วงวันหยุดยาวรถยนต์ที่ได้รับความนิยมจะเป็นรถประเภท SUV เหมาะสำหรับการเดินทางท่องเที่ยว หรือ ในวันธรรมดา รถประเภท Eco Car ได้รัยความนิยมมากกว่า เหมาะกับการขับในเมือง เป็นต้น เป้าหมายในการให้รถทำเงิน มีผลต่อรายได้ กรณีทำเป็นรายได้เสริม : ถ้าปล่อยเช่า เดือนละ 5 วัน รายได้ประมาณ วันละ 1,200 บาท รายได้โดยประมาณ เดือนละ 6,000 บาท หรือปีละ 72,000 บาท กรณีทำเป็นธุรกิจ : ถ้าปล่อยเช่า เดือนละ 15 วัน รายได้ประมาณ วันละ 1,200 บาท รายได้โดยประมาณ เดือนละ 18,000 บาท หรือปีละ 216,000 บาท กรณีทำเป็นธุรกิจ : ถ้าปล่อยเช่า เดือนละ 30 วัน รายได้ประมาณ วันละ 1,200 บาท รายได้โดยประมาณ เดือนละ 36,000 บาท หรือปีละ 432,000 บาท --------------------------------------------------------------------------------- ฮ้อปพาร์ทเนอร์ คือ อะไร? HAUP Partner คือ เจ้าของรถนำที่รถยนต์มาแชร์บนแพลตฟอร์มฮ้อป เพื่อหารายได้ในรูปแบบของ คาร์แชร์ริ่ง (Carsharing) โดยสามารถบริหารจัดการผ่านเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงรถยนต์เข้ากับระบบสมาร์ทโฟน ทำให้รถยนต์ที่เปิดบริการบนแอปฯ ฮ้อปมีความปลอดภัยและจัดการออนไลน์ได้ 100% คลิกอ่านต่อ (https://www.haupcar.com/forum/share-a-car/haup-partner-khuue-aair-thamaimthuengkhwraiwaicchpl-yrthaihechaabnae-p-haup)(https://www.haupcar.com/forum/share-a-car/haup-partner-khuue-aair-thamaimthuengkhwraiwaicchpl-yrthaihechaabnae-p-haup) วิธีการสมัครเป็นพาร์ทเนอร์ ฮ้อป แชร์สร้างรายได้ เช่ารถง่ายใกล้ตัวคุณ สมัครเป็น HAUP Partner 🔗 คลิก สอบถามเพิ่มเติม LINE 📲 @haup.partner หรือคลิกLike
- Tips & Tutorialsวันหยุด = วันพักผ่อน 🏖️⛺💕. หลายๆ คนก็แพลนทริปเที่ยว หรือเดินทางไปต่างจังหวัดกันแล้ว แต่จะดีกว่าไหม? หากเพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัย ด้วยการเช็ครถยนต์หรือยานพาหนะก่อนเดินทาง วันนี้ Haup นำเกร็ดความรู้ 5 ขั้นตอนการเช็คความพร้อมรถยนตร์ก่อนเดินทางวันหยุดมาฝากเพื่อนๆ กัน🚗✨ 1. ตรวจเช็คระบบเบรก ระบบเบรกเป็นส่วนที่สำคัญต่อความปลอดภัยในการขับขี่เป็นอย่างมาก หากผู้ขับขี่ได้ยินเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดคล้ายเสียงโลหะเสียดสีระหว่างเบรกให้สันนิษฐานเบื้องต้นว่า ผ้าเบรกหมด ผู้ขับขี่ควรเปลี่ยนผ้าเบรกใหม่ก่อนออกเดินทางไกล 2. ตรวจเช็คสภาพยางและเติมลมยาง ยางรถยนต์ถือเป็นชิ้นเดียวที่สัมผัสกับพื้นผิวถนน เพราะฉะนั้นผู้ขับขี่ควรตรวจสภาพยางรถยนต์ให้พร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการเช็คดูสภาพยางว่ามีการสึกหรอหรือไม่? รวมถึงการเติมลมยางให้เหมาะสมกับรถของคุณด้วย 3. ตรวจเช็คระบบไฟส่องสว่าง ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า ไฟท้าย ไฟตัดหมอก ไฟเลี้ยวหรือไฟฉุกเฉิน ให้ผู้ขับขี่ทำการตรวจสอบดูระบบไฟทั้งหมดว่าส่องสว่างชัดเจนหรือไม่? 4. ตรวจเช็คระดับน้ำกลั่นและแบตเตอรี่ หากคุณไม่อยากเจอปัญหารถสตาร์ทไม่ติดระหว่างขับขี่ท่องเที่ยวอยู่ อย่าลืมเช็คแบตเตอรี่และระดับน้ำกลั่นควรอยู่ให้อยู่ในระดับที่กำหนด 5. ตรวจเช็คชุดอะไหล่ เครื่องมือประจำรถ เบอร์โทรฉุกเฉิน และความพร้อมของผู้ขับขี่ ระหว่างการเดินทาง เราไม่รู้หรอกว่า เหตุการณ์ไม่คาดคิดจะเกิดกับเราตอนไหน ช่วงเวลาไหน และอยู่ตรงไหน บางทีอาจจะเกิดในจุดที่ ไม่สามารถโทรขอความช่วยเหลือได้ หรือไม่มีย่านชุมชนบริเวณนั้นเลย ดังนั้น อะไหล่และอุปกรณ์ฉุกเฉินที่เราควรมีในรถติดไว้ก็ คือ ล้อ-ยางอะไหล่, แม่แรง ชุดเครื่องมือในการถอดล้อ, ที่เติมลมฉุกเฉิน, สายพ่วงแบต, สายลากรถ, ไฟฉาย, เบอร์โทรฉุกเฉินต่างๆ และความพร้อมของผู้ขับขี่ เพราะการเดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัยนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับรถอย่างเดียว แต่ยังขึ้นอยู่กับผู้ขับขี่อีกด้วย ผู้ขับขี่ทุกคนควรพักผ่อนให้เพียงพอ หากง่วงระหว่างการขับขี่ก็ควรหยุดพัก ขับขี่รถด้วยความไม่ประมาท คาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง ขับรถในความเร็วที่กำหนด และไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างปลอดภัยแล้วLike